คุณเชื่อผมเถอะ ถ้า ลิเวอร์พูล ขาย โม ซาล่าห์ เมื่อไหร่ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ จะเข้ามาสวมรอยพื้นที่ตรงนั้นได้อย่างแนบสนิทแน่นอน
นั่นเป็นคำที่ โจนาธาน วู้ดเกต กุนซือหนุ่มของ บอร์นมัธ ให้สัมภาษณ์ไว้หลังจากได้เห็นลีลาของ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ แบบเต็ม 2 ตาเป็นครั้งแรกในเกมแชมเปี้ยนชิพ
นับนิ้วจนถึงเวลานี้ (29 เมษายน 2021) สิงห์อีซ้ายที่ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ขอยืมตัวมาจาก ลิเวอร์พูล ลงสนามในฤดูกาลนี้ไปแล้ว 39 นัด ยิงได้ 6 และแอสซิสต์ไปถึง 11 กำลังกลายเป็นสตาร์ในลีกรองของอังกฤษเต็มตัว ทั้งที่อายุอานามเพิ่งจะ 18 ปีเท่านั้น
ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ หลงรักฟุตบอลมาตั้งแต่จำความได้ และเขาเริ่มต้นเล่นในทีมเยาวชนกับ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ก้วยตำแหน่งแบ็คซ้ายด้วยซ้ำ
“เขาตัวเล็กที่สุดในสนามแต่ได้เล่นแบบข้ามรุ่นมาโดยตลอด” สกอตต์ ชิคเกิ้ลเดย์ อดีตโค้ชเยาวชนรุ่นอายุต่ำกว่า 11 ปีของ คิวพีอาร์ เล่า “ตอนนั้นผมเพิ่งเข้ามาคุมทีม และพอเห็น ฮาร์วี่ย์ ผมก็บอกกับสตาฟฟ์ว่าทำไมไม่เอาเด็กคนนี้ไปเล่นกับทีมที่อายุเท่ากัน แต่สตาฟฟ์คนนั้นบอกผมว่าให้รอดูไปก่อน“
“พอผมเห็นเขาได้เล่นกับลูกฟุตบอลเท่านั้นแหละ ผมถึงเข้าใจทันทีว่าทำไม, ฮาร์วี่ย์ เล่นฟุตบอลฉลาดและรู้ว่าจังหวะไหนควรส่งหรือควรเล่นเอง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นเด็กที่ขยันเกินวัยอีกต่างหาก”
“วันที่ผมทำงานวันแรก ผมไปถึงสนามซ้อมก่อนเวลา 35 นาที แต่ปรากฏว่า ฮาร์วี่ย์ มาถึงก่อนผมแล้ว ดังนั้นผมจึงซ้อมกับเขาแค่ 2 ต่อ 2 ก่อนที่ผมจะร้องว้าวเลย เด็กคนนี้มีดีกว่าเล่นแบ็คซ้าย และจากตรงนั้นผมก็ขยับเขาขึ้นไปเล่นปีกนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา”
สกอตต์ ทำงานกับ ฮาร์วี่ย์ อยู่ 2 ปี โดยมีหลายครั้งหลายหนที่เขาประทับใจในตัวของเด็กคนนี้และมั่นใจมากว่าจะโด่งดังได้อย่างแน่นอนในอนาคต
“ฮาร์วี่ย์ มีทุกอย่างที่นักเตะที่ดีควรมี ผมจำได้ว่ามีเกมนึงที่เราเจอกับ เชลซี และแม้ทีมจะโดนนำไปแล้วถึง 1-4 แต่ ฮาร์วี่ย์ ก็ยังวิ่งไล่บอลเพื่อหาทางยิงประตูอยู่ตลอดเวลา ขนากเข้าสู่ช่วงท้ายเกมเขายังมีความเชื่อว่าทีมจะคัมแบ็คได้”
“เขาเป็นเด็กที่มาถึงสนามซ้อมคนแรกและกลับคนสุดท้าย ผมทำงานกับเขา 2 ปีแต่ไม่เคยมาถึงสนามซ้อมก่อนเขาเลย เขาจะซ้อมยิงลูกนิ่งกับฝึกวิ่งสปรินท์อยู่ตลอดเวลา เขาเป็นเด็กที่พิเศษมาก”
หลังจากเล่นได้อย่างโดดเด่นในทีมเยาวชนของ คิวพีอาร์ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ก็ได้ย้ายไปอยู่กับ ฟูแล่ม และได้เล่นให้ทีมชุดอายุต่ำกว่า 18 ตั้งแต่อายุแค่ 14 ก่อนจะพัฒนาแบบก้าวกระโดดไปเรื่อยๆ จนถูกเรียกติดทีมชุดใหญ่ครั้งแรกในเกมลีก คัพ ปี 2018 บนเกมที่ออกไปเยือน มิลล์วอลล์ ซึ่งนั่นส่งผลให้เขากลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ถูกส่งลงสนามในทีมชุดใหญ่ของ ฟูแล่ม ด้วยวัยเพียง 15 ปี กับอีก 174 วันเท่านั้น
นั่นยังไม่พอครับ เขาถูกเรียกติดทีมชุดใหญ่อีกครั้งตอนช่วงปลายฤดูกาล 2018-19 ก่อนจะได้สัมผัสเกมพรีเมียร์ลีกครั้งแรกในเกมพบกับ วูลฟ์แฮมป์ตัน ซึ่งส่งผลให้เขากลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีกไปในทันที ด้วยอายุแค่ 16 ปี กับอีก 30 วัน
หลังจบฤดูกาลดังกล่าว เอลเลียตต์ ได้รับความสนใจจากทีมดัง ๆ ทั่วยุโรปมากมายไม่ว่าจะเป็น เรอัล มาดริด, เปแอสเช รวมไปถึง ลิเวอร์พูล ก่อนสุดท้ายแล้วเจ้าตัวจะเลือกมายังแอนฟิลด์ เนื่องจากครอบครัวของเขามองว่าการทำงานภายใต้ เจอร์เก้น คล็อปป์ นั้นจะเป็นผลดีกับนักเตะในระยะยาวมากกว่า และที่สำคัญมากไปกว่านั้น ฮาร์วี่ย์ เป็นเดอะ ค็อป เต็มขั้นอีกด้วยครับ
“ผมมี สตีเว่น เจอร์ราร์ด เป็นไอดอล” เจ้าตัวให้สัมภาษณ์กับ LFC TV
“ตอนที่ผมอยู่ คิวพีอาร์ ผมเคยเป็นมาสคอตของทีมและได้สัมผัสกับ เจอร์ราร์ด แบบใกล้ชิดในเกมที่เจอกับ ลิเวอร์พูล ผมโชคดีมากที่ได้เจอกับฮีโร่ของตัวเอง ซึ่งนั่นคือแรงบันดาลใจชั้นเยี่ยมของผมเลย”
หลังจากย้ายมา ลิเวอร์พูล ฮาร์วี่ย์ ได้โอกาสประเดิมสนามให้ทีมเกมแรกคือเกมที่เจอกับ มีลตัน คีย์น ดอนส์ ในถ้วยลีก คัพ พร้อมกับจารึกสถิติเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดของสโมสรที่ออกสตาร์ทตัวจริงบนวัยเพียง 16 ปี 174 วัน แถมยังได้เล่นพรีเมียร์ลีกให้หงส์แดงในนัดที่เอาชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ไป 2-0 ช่วงท้ายฤดูกาล ซึ่งเขาถูกส่งลงไปแทน โม ซาล่าห์ ในนาทีที่ 89 อีกด้วย
แต่ด้วยวัยที่ยังละอ่อน เจอร์เก้น คล็อปป์ จึงตัดสินใจปล่อยตัวให้ แบล็คเบิร์น ยืมไปใช้งานเพื่อสั่งสมประสบการณ์ในลีกรอง ซึ่งกุหลาบไฟมี โทนี่ โมว์เบรย์ เป็นกุนซือ และมี สจ๊วร์ต ดาวน์นิ่ง อดีตนักเตะ ลิเวอร์พูล ลงเล่นอยู่ด้วย
“ทันทีที่ได้ซ้อมกับ ฮาร์วี่ย์ ผมรู้ทันทีว่าเขาสามารถเล่นในพรีเมียร์ลีกได้สบายๆ เลย” ดาวน์นิ่ง เล่าให้ Goal ฟัง
“เขาเข้าใจเกมสูง รู้ว่าเมื่อไหร่ควรเลี้ยง เมื่อไหร่ควรส่ง ตอนที่ผมเจอกับ วู้ดเกต เขาบอกกับผมว่าเด็กคนนี้สามารถเล่นแทน โม ซาล่าห์ ได้เลย เขามีคุณภาพกว่าเด็กวันเดียวกันและแข็งแกร่งมากทั้งที่ตัวไม่ได้สูงใหญ่”
ขณะที่ โทนี่ โมวเบรย์ กุนซือกุหลาบไฟก็เป็นอีกคนที่ออกปากชม โดยเฉพาะเรื่องความเป็นมืออาชีพที่ขยันซ้อม แบบเดียวกับที่โค้ชเยาวชนของ คิวพีอาร์ เคยชม
“ทุกวันหลังการซ้อมจบ เขาจะอยู่ซ้อมต่อเสมอ และทุกครั้งที่เขาเห็นทีมสำรองเล่นไฟว์ อะ ไซด์ เขามักจะขอร่วมวงเล่นด้วยแทบทุกครั้ง เขาเต็มไปด้วยความทะเยอทะยานที่สูงลิ่ว ผมถามเขาว่าเหนื่อยมั้ยไอ้หนู เขาส่ายหน้าแล้วก็หัวเราะ นั่นคือพลังงานที่น่าเหลือเชื่อมาก เขามีแววของความเป็นนักเตะในระดับที่สูงกว่านี้เยอะทีเดียว”
“ในเกมกับ ร็อตเธอร์แฮม เขาวิ่งถึง 12 กิโลเมตรได้มั้ง ผมคิดว่าเขาพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ นับตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ และเขาจะกลับไปสอดแทรกในทีม ลิเวอร์พูล ได้อย่างแน่นอน” โมวเบรย์ พูดถึงลูกทีมสุดเลิฟด้วยความยกย่อง
ไม่ใช่แค่ โมวเบรย์ เท่านั้นที่นิยมชมชอบ เอลเลียตต์ แต่อดีตนักเตะของของกุหลาบไฟอย่าง แอนดี้ รีด ยังเอ่ยปากชมผ่านการไลฟ์ในรายการ บีบีซี เรดิโอ ไฟว์ เมื่อปลายปีที่ผ่านมาอีกคน
“ผมตามดูเขามาตั้งแต่เล่นในทีมเยาวชนของ ลิเวอร์พูล แล้ว เขาแสดงให้เห็นคลาสที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งพอมาเล่นในแชมเปี้ยนชิพ เขายิ่งพัฒนามากขึ้น”
“แม้จะมาแค่ในฐานะแข้งยืมตัว แต่เขาทุ่มเทมากพอ ๆ กับคนอื่นในสนาม เขาสงบ มีสมดุลทางร่างกายที่ดีเยี่ยมเกินวัย”
ขณะที่ เควิน กัลลาเกอร์ ตำนานอีกคนของทีมก็ช่วยสำทับว่า “เขาเล่นตัวรุกด้านขวาในระบบหน้า 3 ของ แบล็คเบิร์น มุมมองของผมนะ เขาสามารถทดแทนตำแหน่งของ ซาล่าห์ ได้อย่างแน่นอนในอนาคตอันใกล้นี้”
“เวลาเขาเลี้ยงตัดเข้าไป หรือแม้แต่การจ่ายบอลจากริมเส้น เขาทำได้เนียนตาราวกับเล่นฟุตบอลในระดับนี้มานาน แถมยังวิ่งลงมาช่วยเกมรับอย่างไม่เกียจคร้านอีก แบล็คเบิร์น โชคดีมากที่ได้นักเตะแบบนี้มาร่วมทีม มันยากที่จะเชื่อว่าเขาอายุแค่ 17 เพราะเขาเต็มไปด้วยพรสวรรค์และถือเป็นปรากฏการณ์คนนึง”
สุดท้ายคือ จาค็อบ ครู้ก นักเขียนจากสื่อแลงคาเชียร์ยังอดที่จะแปลกใจกับความสามารถของ ฮาร์วี่ย์ ไม่ได้เช่นเดียวกัน
“เขามีเทคนิคที่ดีและเป็นจุดเด่นที่ชัดเจน แต่รูปร่างของเขาคือสิ่งที่ผมประทับใจมากที่สุด เด็กคนนี้ตัวไม่ใหญ่เลยแต่เขามีการเข้าปะทะที่แข็งแกร่ง แบล็คเบิร์น รู้ดีว่าพวกเขาได้นักเตะที่ดีมาร่วมทีม แต่เชื่อเถอะว่าพวกเขาก็ยังประหลาดใจอยู่ดีที่ ฮาร์วี่ย์ กลายเป็นตัวจริงของทีมได้ในเวลาอันรวดเร็ว”
ความสำคัญที่ ฮาร์วี่ย์ มีต่อกุหลาบไฟถูกยืนยันด้วยตัวเลขทางสถิติมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายบอลสร้างโอกาสให้ทีมไปมากถึง 76 ครั้ง, เลี้ยงบอลสำเร็จ 36 ครั้ง, ครอสบอลยาวเข้าเป้า 19 ครั้ง มีเปอร์เซ็นต์จ่ายบอลสำเร็จสูงถึง 78% และยิงตรงกรอบถึง 13 ครั้ง ทำได้ 6 ประตู และแอสซิสต์ให้ทีมไปได้ถึง 11 ลูกเลยทีเดียว
ท่ามกลางข่าวลือถึงอนาคตที่ไม่แน่นอนของ โม ซาล่าห์ ผมว่า ลิเวอร์พูล ก็คงมองหาทางออกในตำแหน่งตรงนั่นไว้บ้างแล้วล่ะครับ ถึงแม้ว่าในทีมชุดใหญ่มีทั้ง โชต้า และ มินามิโนะ ที่พอจะสลับหมุนเวียนมาเล่นแทนได้ก็จริง แต่ดูเหมือนว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็มีแววว่าจะวางเด็กหนุ่มคนนี้เอาไว้ในระยะยาวเช่นเดียวกัน
จากเด็กที่เคยแอบมอง เจอร์ราร์ด อย่างปลื้มปริ่ม สู่การได้ย้ายเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่เขาเชียร์มาตั้งแต่เด็ก และถูกหมายหัวเอาไว้ว่าอาจเป็นอนาคตของทีม
คลิกเลย >>> https://www.ufabetwins.com/
ติดตามได้ที่ >>> บ้านผลบอล